Generaive AI หรือ AI เชิงสร้างสรรค์ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในปี 2024 ด้วยความสามารถที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่โค้ด ซึ่ง Developer สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ หรือพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Google Cloud เองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี Generative AI จึงได้มีการเปิดตัวบริการที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI หลากหลายรูปแบบออกมาเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้ Cloud Ace Thailand ขออาสาสรุปฟังก์ชันและคุณสมบัติที่โดดเด่นของบริการ Generative AI ที่ Google Cloud มีให้สำหรับเหล่า Developer

อ่านเพิ่มเติม Generative AI คืออะไร?

1. Generative AI สำหรับ Developer 

เริ่มกันที่เครื่องมือ Generative AI จาก Google Cloud ที่สามารถอำนวยความสะดวกในการทำงานหรือเขียนโค้ดต่างๆ ให้กับเหล่า Developer รวมถึง AI developer และ Data Scientist

1.1 Generative AI Studio

เครื่องมือจาก Google Cloud ที่ช่วยให้ Developer สามารถทดลองใช้โมเดล Generative AI ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องมีความรู้หรือทักษะด้าน AI มาก่อน ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ทำให้ Developer สามารถสร้างสรรค์แอปพลิเคชันใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับ Developer ทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญ

คุณสมบัติ :

• ทำงานร่วมกับโมเดลพื้นฐานของ Google เช่น PaLM2, Imagen, Chirp ฯลฯ

• มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

• สามารถโต้ตอบกับโมเดลและปรับแต่ง prompt ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วสามารถปรับใช้โมเดลกับสภาพแวดล้อมการใช้งานจริงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยความช่วยเหลือจาก Vertex AI

ปรับแต่งโมเดลได้อย่างง่ายดายด้วย Generative AI studio บน Google Cloud console Vertex AI

1.2 Model Garden

แหล่งรวมโมเดล Machine Learning สุดล้ำ เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะคล้าย Catalog ที่รวบรวมโมเดล Pre-built Machine Learning ที่หลากหลายไว้ในที่เดียว ช่วยให้ Developer สามารถใช้ และปรับแต่งโมเดลต่างๆ เพื่อนำไปสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างง่ายดาย ลดความซับซ้อนของกระบวนการสร้างและปรับใช้โมเดลการเรียนรู้ของโมเดล Machine Learning 

แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก :

1. First-Party Model : โมเดลที่ Google Cloud พัฒนาเอง เช่น PaLM2, Imagen, Chirp และอื่นๆ มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่ายผ่าน API

2. Open Source Model : โมเดลโอเพนซอร์สที่เหมาะสำหรับใช้งานในองค์กร มีหลากหลายประเภท

3. Third-Party Model : โมเดลจากพาร์ทเนอร์ของ Google Cloud มีความหลากหลาย เหมาะสำหรับงานเฉพาะทาง

คุณสมบัติ :

• ค้นหาโมเดลได้ตามประเภท ภาษาที่ใช้ หรือฟังก์ชันการทำงาน

• ปรับแต่งโมเดลให้ตรงกับความต้องการเฉพาะได้ใน Generative AI Studio

• ใช้โมเดลผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ปรับแต่งพารามิเตอร์ต่างๆ ได้

• นำโมเดลที่ปรับแต่งแล้วไปใช้ในการสร้างแอปพลิเคชัน เผยแพร่ไปยังสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง

ค้นหาโมเดล Pre-built Machine Learning ได้บน Google Cloud console Vertex AI

1.3 Vertex AI Codey APIs

ผู้ช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะที่เข้าใจภาษามนุษย์ เป็นโมเดลพื้นฐานสำหรับการสร้างโค้ดจากข้อความ รองรับภาษาเขียนโค้ดหลากหลายกว่า 20 ภาษา ไม่ว่าจะเป็น Go, Google Standard SQL, Java, Javascript, Python, Typescript และอีกมากมาย ช่วย Developer เขียนโค้ดได้เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และลดเวลาที่ต้องเสียไปกับการเขียนโค้ดซ้ำๆ

ความสามารถของ Codey APIs :

1. Code Generation : สร้างโค้ดตามใจสั่ง เพียง Developer ป้อนข้อความในภาษาที่เป็นธรรมชาติ Codey APIs ก็จะเนรมิตโค้ดออกมาให้ทันที

2. Code Completion : เติมเต็มโค้ดให้สมบูรณ์ทุกบรรทัด เสนอโค้ดบรรทัดถัดไปให้ Developer อย่างชาญฉลาด โดยอ้างอิงจากบริบทของโค้ดที่กำลังเขียนอยู่

3. Code Chat : ถาม-ตอบทุกปัญหาเกี่ยวกับโค้ดได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะอยากแก้บั๊ก สร้างเอกสาร หรือเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ ก็พร้อมดูแล

1.4 Enterprise Search

ช่วยให้องค์กรสร้างระบบค้นหาอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีการค้นหาแบบสนทนา (Conversational Search) ผสานพลัง Generative AI จาก Google Cloud's AI App Builder เปรียบเหมือน Gemini สำหรับองค์กร โดยสามารถพูดคุยถาม-ตอบเพื่อค้นหาข้อมูลภายในระบบ IT ทั้งของลูกค้าและพนักงานได้อย่างง่ายดาย เหมือนมีผู้ช่วยอัจฉริยะคอยดูแล เหมาะกับองค์กรที่มีข้อมูลจำนวนมาก

คุณสมบัติ :

• ค้นหาข้อมูลที่จำเป็นได้ทันทีจากข้อมูลทุกรูปแบบ ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ตัวเลข เสียง ภายในองค์กร

• เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ใช้ผ่านบริบทจากข้อความค้นหาของผู้ใช้

• สรุปใจความสำคัญและนำเสนอผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย

• มั่นใจในความปลอดภัยได้ 100% ว่าข้อมูลที่ค้นหาและผลลัพธ์ของผู้ใช้จะไม่ถูกนำไปฝึกโมเดล AI อื่นๆ

1.5 Conversation AI 

เคยประสบปัญหากับ Chatbot ที่ตอบซ้ำซาก ไม่เข้าใจบริบท หรือให้คำตอบไม่ตรงใจหรือไม่? Conversation AI คือคำตอบ พลิกโฉมประสบการณ์การสนทนาของคุณด้วยพลังของ Generative AI App Builder บริการนี้จะเปลี่ยน Chatbot ธรรมดาให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถสนทนากับคุณได้อย่างลื่นไหล ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการพัฒนา Chatbot

คุณสัมบัติ :

• ตอบกลับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ตอบตาม Keyword แต่จะวิเคราะห์บริบท คำถาม และเจตนารมณ์ เพื่อเข้าใจผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง

• บอกลาคำตอบสำเร็จรูปแบบดั้งเดิม บริการนี้สามารถสร้างข้อความตอบกลับใหม่ๆ ตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะชวนคุย ถามไถ่ หรือให้คำแนะนำ

• ช่วยยกระดับ Customer Service มอบประสบการณ์สนทนาที่ดีขึ้นให้ลูกค้า ตอบคำถามได้ตรงใจ แก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว

2. ข้อดีและข้อจำกัดของ Generative AI สำหรับ Developer

แม้ว่า Generative AI จะเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังและสามารถพลิกโฉมงานของ Developer ได้ อย่างไรก็ตาม Developer ควรตระหนักถึงข้อดีและข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

2.1 ข้อดี

• ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• ช่วยลดเวลาและทรัพยากรในการพัฒนาแอปพลิเคชัน

• ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องมีความรู้หรือทักษะด้าน AI มาก่อน

2.2 ข้อจำกัด

• โมเดล Generative AI อาจมีอคติหรือความลำเอียงได้

• ผลลัพธ์ของโมเดล Generative AI อาจไม่ถูกต้องแม่นยำเสมอไป

ตัวอย่างการใช้งาน Generative AI บน Google Cloud

พลาดไม่ได้ ! กับแคมเปญ

Power your Gemini era with Cloud Ace

หากคุณกำลังสนใจเริ่มต้นใช้งาน Generative AI แต่ไม่รู้เริ่มต้นอย่างไรดี ทดลองใช้งาน Generative AI ฟรี! ใน 1 เดือน กับ Cloud Ace Thailand เพื่อขับเคลื่อนโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ

Power of AI is in your hands!

หากคุณต้องการคำปรึกษา Cloud Ace Thailand พร้อมให้บริการที่จะสนับสนุนคุณตั้งแต่ การให้คำปรึกษา จนถึงการออกแบบระบบ ติดตั้งระบบ ย้ายระบบ ในฐานะ Google Cloud Partner ที่มีความเชี่ยวชาญ และได้รับรางวัล Service partner of the year ในปี 2019

ติดต่อเรา th_sales@cloud-ace.com