This website use cookies to ensure you get the best experience on our website
ข้อตกลงในการใช้บริการ
1. ข้อตกลงฉบับนี้กล่าวถึงการให้บริการต่างๆ โดยบริษัท คลาวด์ เอซ จำกัด (ที่อยู่ : 199 คอลัมน์ ทาวเวอร์, ชั้นที่ 15, ห้องที่ 1505, ถนนรัชดาภิเษก, แขวงคลองเตย, กรุงเทพฯ 10110, ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริษัท”) วัตถุประสงค์ของข้อตกลงฉบับนี้คือ เพื่อสร้างเงื่อนไขและข้อตกลงที่จำเป็นต่อการให้บริการ (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริการ”)
2. หากบุคคลใด (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “ผู้สมัคร”) ได้ยื่นคำร้องขอทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกันกับการใช้บริการ (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริการ”) ซึ่งได้รับการอนุญาตจากบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงในข้อตกลงว่า “บริษัทผู้ทำสัญญา”) บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้บริการในระหว่างการใช้บริการ
3.หากเนื้อความของหนังสือข้อตกลงในการใช้บริการดังกล่าวมีส่วนต่างกันกับ เงื่อนไขการใช้บริการ ให้ถือเนื้อความของข้อตกลงในการใช้บริการในการพิจารณาเหนือเงื่อนไขการใช้บริการ
4. เนื้อความ, ค่าบริการ, ระยะเวลาของสัญญาและอื่นๆ ในการบริการที่สามารถถูกใช้ได้โดยบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องถูกระบุอย่างชัดเจนใน ข้อตกลงการใช้บริการพร้อมทั้งในเงื่อนไขการใช้บริการด้วย
1. ผู้สมัครจะต้องส่งเอกสารสั่งซื้อที่กำหนดโดยบริษัทผู้ทำสัญญามายังทางบริษัท
2. ผู้สมัครจะต้องยืนยันเงื่อนไขการใช้บริการ ก่อนส่งเอกสาร
3. หากทางบริษัทต้องการเอกสารเพิ่มเติม เพื่อพิจารณายืนยันการตกลงของผู้สมัครต่อข้อตกลงในการใช้บริการ ทางผู้สมัครจะต้องส่งเอกสารที่ถูกเรียกร้องมายังบริษัท
1. ข้อตกลงในการใช้บริการจะตั้งขึ้นเมื่อบริษัทได้แสดงความยินยอมต่อเอกสารสำหรับสมัครจากผู้สมัครที่มีเนื้อความตรงต่อบทบัญญัติในหมวดก่อนหน้า
2. ทางบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธเอกสารสำหรับสมัครข้อตกลงการใช้บริการ หากผู้สมัครนั้นถูกพิจารณาว่ามีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
3. หากข้อตกลงในการใช้บริการนั้นได้ถูกตั้งขึ้นบนการยอมรับตามบทบัญญัติที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 1 ทางบริษัทจะแจ้งให้บริษัทผู้ทำสัญญาทราบถึงการยอมรับทำข้อตกลง
1. หากมีข้อใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้น บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องแจ้งกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า
2. ทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบหากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นเกิดความยากลำบากอันเกิดจากการละเลยในข้อสัญญาบนย่อหน้าข้างต้น
1. หากบริษัทผู้ทำสัญญา ต้องการเปลี่ยนเนื้อความการบริการที่จัดให้โดยทางบริษัท ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องยื่นเอกสารที่จำเป็นต่อทางบริษัทใหม่อีกครั้ง
2. บทบัญญัติในหมวดที่ 2, ย่อหน้าที่ 2, ย่อหน้าที่ 3 และหมวดที่ 3 จะถูกบังคับใช้โดยสามารถอนุโลมได้สำหรับการเปลี่ยนเนื้อความของการบริการที่ได้ถูกระบุไว้ในย่อหน้าก่อนที่ผ่านมา
1. ทางบริษัทแจ้งการเปลี่ยนเนื้อความของเงื่อนไขการใช้บริการ โดยการเขียนลงบนเว็ปไซต์ของบริษัท (https://th.cloud-ace.com/home) ซึ่งในกรณีนี้ เงื่อนไขการใช้บริการที่มีต่อบริษัทผู้ทำสัญญาจะพิจารณาตามเนื้อความของเงื่อนไขการใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงล่าสุด
1. เมื่อใช้บริการ บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชำระค่าบริการต่อทางบริษัทตามจำนวนที่ระบุไว้ในข้อตกลงในการชำระค่าบริการ ตามวิธีที่ทางบริษัทกำหนดไว้
2. ค่าบริการที่ต้องชำระที่ระบุไว้ข้างต้น จะต้องชำระโดยบริษัทผู้ทำสัญญาจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อค่าโอนเงินหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการชำระ โดยวิธีการชำระเงินที่ทางบริษัทกำหนดไว้มีดังต่อไปนี้
3. อัตราแลกเปลี่ยนจะถูกคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยน USD ของ ธนาคาร CITIBank ซึ่งจะยืนยันตามวันที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้
Rate confirmation page: https://www.citibank.co.th/THG...
หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นยกเลิกสัญญาหรือภาระผูกพันทางการชำระเงินกับทางบริษัท อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชดใช้แก่ทางบริษัทเป็นจำนวนสองเท่า จากจำนวนที่ได้ยกเลิกไปอย่างไม่ถูกกฎหมาย รวมถึงชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ทางบริษัท
หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นไม่สามารถชำระค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายผูกพันใดๆ กับต่อบริษัท ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมโดยคิดเพิ่ม 14.6% จากวันที่ต้องชำระเงิน
1. บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องไม่ละเมิดข้อบังคับในระหว่างการใช้บริการ ดังต่อไปนี้
(1) การกระทำใดๆ ก็ตามที่ละเมิดหรืออาจนำไปสู่การละเมิดเช่นการละเมิด สินเชื่อ, ความเป็นส่วนตัวหรืออื่นๆ ของทางบริษัท หรือบุคคลที่สาม
(2) การกระทำใดๆ ก็ตามที่ละเมิดหรืออาจนำไปสู่การละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาของทางบริษัท, บุคคลที่สาม (การสร้างหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีความคล้ายคลึงกันกับบริการของทางบริษัท เช่นเครื่องมือแปลภาษา เป็นต้น) ซึ่งรวมถึงการใช้บริการของทางบริษัทเพื่อใช้ในการละเมิดใดๆ
(3) ใช้บริการของทางบริษัทโดยอ้างตนเลียนแบบเป็นบริษัทหรือบุคคลที่สาม
(4) การกระทำที่มีความเกี่ยวข้อง, ส่งเสริมหรือเป็นเหตุต่อการทำอาชญากรรม
(5) การกระทำที่จะบิดเบือนหรือลบข้อมูลของทางบริษัทหรือบุคคลที่สาม ที่เข้าถึงได้ผ่านทางการใช้บริการ
(6) การกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นอุปสรรคหรือขัดขวางบทบัญญัติของการให้บริการ
(7) การกระทำที่รบกวนหรืออาจส่งผลในเชิงรบกวนต่อการใช้งานบริการหรือต่อบุคคลที่สาม
(8) การลอกเลียนแบบ, ปรับแต่ง, ซอฟต์แวร์หรือเนื้อความใดๆ ที่เป็นของทางบริษัทภายในการให้บริการ โดยรวมถึงการแปลกลับ, ปรับปรุง, แยกส่วนและการกระทำใดๆ ก็ตามที่จะดึงรหัสต้นฉบับ(Source code) ออกมา
(9) การนำบริการไปใช้ในการประกอบธุรกิจประเภท สถาบันนิวเคลียร์, การควบคุมจราจรทางอากาศ, อุปกรณ์ช่วยชีวิต ที่ผู้ทำสัญญาไม่ได้ครอบครองใบอนุญาตการใช้งานอย่างถูกกฎหมาย หรือใช้ในกิจการใดๆที่ความผิดพลาดของระบบนั้น จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและสภาพแวดล้อม
(10) การสร้างโครการหลายโครงการ โดยแสร้งว่ามีแค่โครงการเดียว (โดยใช้ทรัพยากรสำหรับการคำนวณ, พื้นที่จัดเก็บ, การติดต่อสื่อสารและอื่นๆ)
(11) การจัดการข้อมูลและการดูแลกิจกรรมใดๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับระเบียบข้อบังคับการเคลื่อนย้ายอาวุธที่กำหนดโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
(12) การพัฒนาหรือการใช้บริการสื่อสารผ่านการบริการ (เช่น แอปพลิเคชั่นที่ให้ผู้ใช้โทรออกหรือรับสายจากระบบโทรศัพท์สาธารณะ)
(13) ใช้ ID และ Password อย่างผิดกฎหมาย
(14) การใช้บริการเพื่อนำไปใช้กับโปรแกรมเช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่จะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจอื่นๆ หรือต่อบุคคลที่สาม
(15) การกระทำใดๆ ที่จะเผยแพร่ข้อมูลอันไม่เหมาะสมเช่น ข้อมูลสำหรับผู้ใหญ่, หยาบคาย, อนาจารต่อเด็ก, ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมกับเด็กหรือการกระทำอื่นๆ ที่ทางบริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสม
(16) รวมถึง การกระทำที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิของบริษัทและบุคคลที่สามหรือการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย, ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องไม่นำบริการไปขายใหม่(การขายต่อบริการที่เพิ่งซื้อมา) หรือมอบสิทธิ์ย่อยทั้งหมดหรือบางส่วนของการบริการให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับการยินยอมจากทางบริษัท
ทางบริษัทสามารถมอบสิทธิ์ในการใช้บริการบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่บุคคลที่สาม หากได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากบริษัทผู้ทำสัญญา
1. การสอบถามเกี่ยวข้องกับบริการ, การแจ้งเตือนจากบริษัทผู้ทำสัญญาถึงทางบริษัท, การแจ้งเตือนที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงการใช้บริการหรือการแจ้งเตือนจากบริษัทถึงบริษัทผู้ทำสัญญา จะแจ้งเตือนในรูปแบบที่บริษัทกำหนดไว้
2. หากทางบริษัทได้ส่งการแจ้งเตือนไปยังที่อยู่, เบอร์โทรหรืออีเมลใดๆ แก่บริษัทผู้ทำสัญญา การแจ้งเตือนนั้นโดยเหตุปกติ จะถึงผู้รับเสมอ ซึ่งหากเกิดเหตุที่ทำให้ส่งไม่ถึง จะพิจารณาว่าได้ส่งไปแล้ว
ทางบริษัทอาจสำรองข้อมูลหรือคัดลอกข้อมูลที่เก็บโดยบริษัทผู้ทำสัญญาบนเซิร์ฟเวอร์ ผ่านการใช้บริการเพื่อที่จะสำรองข้อมูลในกรณีที่อุปกรณ์เกิดความเสียหาย, หยุดการทำงานหรือการซ่อมบำรุงการให้บริการ
1. ทางเราปกป้องความเป็นส่วนตัวและสิทธิทางกฎหมายของผู้รับบริการภายใต้ขอบเขตของกฎหมายและข้อบังคับ
2.การใช้ข้อมูลส่วนตัวนั้นจะต้องใช้ในกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกันกับหลักนโยบายการปกป้องข้อมูลที่กำหนดโดยทางบริษัท https://www.cloud-ace.com/abou...
3. ทางบริษัทอาจเข้าถึง, ดูแล, ใช้งานหรือเปิดเผยข้อมูลที่นำเข้ามาในระบบโดยบริษัทผู้ทำสัญญาผ่านทางบริการ ในส่วนเพิ่มเติมข้อมูลที่นำเข้ามาในระบบโดยบริษัทผู้ทำสัญญาผ่านทางบริการนั้นอาจถูกส่งต่อไปยัง Google Inc. (บริษัท กูเกิล มหาชน) ตามความเหมาะสมของการให้บริการ
1. บริษัทและบริษัทผู้ทำสัญญาจะเปิดเผยข้อมูลให้แก่กันตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการใช้บริการและข้อตกลงการใช้บริการ และจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่สามเว้นแต่ว่าจะได้รับการยินยอมจากทั้งสองฝ่าย
2. ข้อมูลที่เป็นความลับตามที่ระบุในย่อหน้าก่อนหน้า จะไม่อยู่ในเงื่อนไขของหมวดหากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. ทางบริษัทสามารถหยุดการให้บริการเซิฟเวอร์ของบริษัทผู้ทำสัญญาโดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากเกิดเหตุดังต่อไปนี้
2. ทางบริษัทสามารถลบข้อมูลลายลักษณ์อักษรของบริษัทผู้ทำสัญญาโดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและได้รับความยินยอม หากเกิดเหตุดังต่อไปนี้
1. ทางบริษัทสามารถซ่อมบำรุงและตรวจสอบระบบในเวลาใดก็ตาม หลังจากหยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อรักษาสถานะการทำงานของการบริการให้อยู่ในสภาพดีเสมอ
2. ตามที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า ตามกฎพื้นฐานแล้วจะมีการแจ้งบริษัทผู้ทำสัญญาก่อนเสมอ แต่ในกรณีฉุกเฉินทางบริษัทสามารถทำการซ่อมบำรุงและตรวจสอบโดยไม่มีการหยุดชั่วคราวหรือแจ้งล่วงหน้า
3. ทางบริษัทสามารถหยุดการให้บริการชั่วคราวได้ หากมีเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้, การเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุสุดวิสัย
4. ในกรณีของภัยพิบัติทางธรรมชาติ, อุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินใดๆ หรือเหตุใกล้เคียง ทางบริษัทจะให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการป้องกันภัยพิบัติหรือฟื้นฟูการสื่อสาร, เพาเวอร์ซัพพลายหรือระเบียบวิธีต่างๆ เพื่อควบคุมการสื่อสารที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีเร่งด่วนเพื่อรักษาสาธารณะประโยชน์ และอาจจะมีการกำหนดข้อจำกัดในการใช้บริการ
5. ทางบริษัทสามารถ เพิ่ม, เปลี่ยน หรือ ลบเนื้อหา ของการให้บริการ หลังจากที่ได้แจ้งล่วงหน้ากับทางบริษัทผู้ทำสัญญาก่อนแล้ว
6. ทางบริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากทางบริษัทผู้ทำสัญญาหรือบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเกิดจากความล่าช้า หรือ จากการไม่สามารถให้บริการได้โดยเกิดจากเหตุที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า หรือ เหตุใดๆที่คล้ายคลึงกัน
การบริการนั้นจะมีผล 1 เดือน นับจากวันที่ลงนาม และจะมีผลต่อผู้ทำสัญญาตามเนื้อความลายลักษณ์อักษร (ไม่เกิน 3 วันก่อนหมดสัญญาระหว่างบริษัทผู้ทำสัญญากับทางบริษัท หากตัวสัญญานั้นส่งไปไม่ถึงบริษัทผู้ทำสัญญาภายใน14วันก่อนวันหมดสัญญา) สัญญาจะมีการต่ออายุโดยจะมีเนื้อความตามเดิม โดยเริ่มต่อจากวันที่หมดสัญญาต่อไป
1. หากบริษัทผู้ทำสัญญาต้องการยกเลิกการบริการตามสัญญา บริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องส่งเอกสารการขอยกเลิกโดยใช้รูปแบบที่ทางบริษัทระบุไว้ ให้แก่ทางบริษัท
2. หากการบริการถูกยกเลิกโดยวิธีที่ระบุไว้ข้างต้น ค่าบริการของการบริการจนถึงวันที่ขอยกเลิกจะคำนวณตามสัดส่วนของวันที่ได้ใช้งานในเดือนนั้นๆ จนถึงวันยกเลิก อย่างไรก็ตาม ค่าบริการบางอย่างเช่นค่าธรรมเนียมตัวแทนนั้น จะไม่รวมอยู่ด้วย
1. หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นได้ละเมิดข้อใดๆ ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ทางบริษัทจะยกเลิกสัญญาทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และจะยกเลิกการให้บริการทั้งหมด ซึ่งในกรณีนี้ ทางบริษัทจะไม่ช่วยเหลือในกรณีที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทผู้ทำสัญญา
2. หากบริษัทผู้ทำสัญญานั้นได้ละเมิดข้อใดๆที่ระบุไว้ข้างต้น ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องชำระค่าบริการที่ค้างคาแก่ทางบริษัททันที
หลังจากการหยุดให้บริการหลังจากหมดสัญญาหรือในกรณีอื่นๆ ทางบริษัทสามารถลบข้อมูลของบริษัทผู้ทำสัญญาในระหว่างการรับบริการที่เก็บไว้บนเซิฟเวอร์ ทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
บริษัทผู้ทำสัญญาไม่สามารถส่งต่อข้อตกลงการใช้บริการ, สิทธิ และ ข้อผูกมัดภายใต้ข้อตกลงต่อบุคคลที่สาม
1. ผู้ทำสัญญาหรือตัวแทนของผู้ทำสัญญาจะต้องเป็นบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือบุคคลอิทธิพลผิดกฎหมาย, บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลผิดกฎหมาย, กลุ่มสมัชชา, กลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมและอื่นๆ หรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง (ซึ่งหลังจากนี้จะกล่าวถึงว่า “บุคคลที่มีความรุนแรง ”) ภายในระยะเวลา 5 ปี ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบุคคลข้างต้นและจะไม่มีความเกี่ยวข้องในอนาคต
2. เมื่อทางบริษัทได้พบว่าบริษัทผู้ทำสัญญาหรือตัวแทนของผู้ทำสัญญา หรือผู้เป็นคนกลางของบริษัทผู้ทำสัญญานั้นเข้าข่ายข้อใดก็ตามที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า ทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการยกเลิกการให้บริการตามสัญญาหรือยกเลิกสัญญาอื่นๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
3. ทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดต่อบริษัทผู้ทำสัญญาอันเนื่องมาจากการยกเลิกการให้บริการตามเหตุที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้า
1. ทางบริษัทจำเป็นต้องเป็นผู้ให้บริการ หากไม่มีการให้บริการต่อบริษัทผู้ทำสัญญาเกิดขึ้น โดยเหตุเกิดขึ้นนั้นเป็นความรับผิดชอบของทางบริษัท หากไม่สามารถใช้บริการได้เป็นเวลา 72 ชั่วโมงติดต่อกันหรือ ไม่สามารถใช้บริการได้รวม 120 ชั่วโมงภายในเวลา1เดือน ซึ่งนับจากจากเมื่อทางบริษัททราบว่าทางบริษัทผู้ทำสัญญาไม่สามารถใช้บริการได้ ค่าบริการในเดือนนั้นๆ จะถูกจำกัดตามคำร้องของบริษัทผู้ทำสัญญาเพื่อเป็นชดเชยเป็นค่าเสียหาย อย่างไรก็ตามหากบริษัทผู้ทำสัญญาไม่ได้ยื่นคำร้องภายใน1เดือนจากวันที่สามารถยื่นคำร้องได้ บริษัทผู้ทำสัญญาจะเสียสิทธิในการยื่นคำร้อง
2. ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากการซ่อมบำรุง, ถูกรบกวน, การเปลี่ยนการให้บริการ หรืออื่นๆ นั้นจะไม่นับว่าเป็น การไม่สามารถให้บริการต่อบริษัทผู้ทำสัญญาโดยเหตุมาจากความรับผิดชอบของทางบริษัท
3. ทางบริษัทมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความเสียหายของข้อมูลหรือจากการสูญเสียข้อมูลหรืออื่นๆ โดยมีเหตุอันเนื่องมาจากการใช้บริการและการใช้ระบบเครือข่ายอื่นผ่านการให้บริการ อย่างไรก็ตามทางบริษัทจะไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบริษัทผู้ทำสัญญา หากตรวจสอบพบว่าความเสียหายเกิดจากบริษัทผู้ทำสัญญาเอง
นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในหมวดก่อนหน้านั้น ทางบริษัทจะไม่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับการใช้งาน(เช่น ข้อมูลของบริษัทผู้ทำสัญญาได้หายไปจากเซิฟเวอร์, มีความเสียหายหรือรั่วไหล ซึ่งรวมถึงความเสียหายที่เกิดจากเหตุการใช้งานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับหน้าที่เดิมของข้อมูล) และทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องไม่เรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายกับทางบริษัท หากทางบริษัทผู้ทำสัญญาได้สร้างความเสียหายต่อบุคคลที่สามผ่านการใช้บริการ ทางบริษัทผู้ทำสัญญาจะต้องรับผิดชอบในส่วนของความเสียหายนั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
หากทางบริษัทผู้ทำสัญญาหรือทางบริษัทนั้นได้ก่อความเสียหายแก่บุคคลที่สามโดยการละเมิดข้อตกลงการใช้บริการหรือเงื่อนไขการใช้บริการ(รวมถึงในกรณีที่เหตุมีความเกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาที่ระบุไว้ใน หมวดที่ 24 ย่อหน้าที่ 1 ) จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ จำนวนค่าเสียหายที่ทางบริษัทสามารถชดใช้แก่ทางบริษัทผู้ทำสัญญาได้ จะมีจำนวนเท่ากันกับค่าการใช้บริการที่จ่ายโดยบริษัทผู้ทำสัญญาต่อทางบริษัทในเดือนที่ผ่านมาตามสัญญา อย่างไรก็ตาม วงเงินสูงสุดของการชดใช้ค่าเสียหาย จะไม่กำหนดวงเงินสูงสุดในการชดใช้ ในกรณีที่ทางบริษัทหรือบริษัทผู้ทำสัญญา ได้สร้างความเสียหายต่อบุคคลที่สามเนื่องจากความประมาทร้ายแรง
เนื้อหาใดๆ ที่ไม่ได้ถูกระบุไว้ในข้อตกลงการใช้บริการและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ และเนื้อหาใดๆ ที่มีการตีความต่างกันออกไปจากในข้อตกลงการใช้บริการและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ จะสามารถหาข้อตกลงระหว่างกันผ่านการหารือระหว่างบริษัทและบริษัทผู้ทำสัญญา
เนื้อหาของในข้อตกลงการใช้บริการทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย
ในกรณีที่เกิดเหตุขัดแย้งด้านการบริการ ระหว่างบริษัทและบริษัทผู้ทำสัญญา ให้ใช้อำนาจของศาลแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อพิจารณาความขัดแย้งตามกฎหมาย
กรรมการผู้จัดการ
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563